วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โบรชัวร์/แคตตาล็อค Toyota Fortuner Isuzu Mu-7รุ่นแรก

   
โบรชัวร์/แคตตาล็อค Toyota Fortuner Isuzu Mu-7รุ่นแรก


   งานMotor Expoปีนี้ก็จะเริ่มขึ้นแล้วนะครับรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวช่วงในงานก็พอจะทราบกันคร่าวๆไปบ้างแล้ว แต่ถ้าลองย้อนกลับไปปีMotor Expoปี2004ก็มีรถตั้งหลายรุ่นหลายยี่ห้อ แต่รถสองรุ่นที่จะนำภาพปกโบรชัวร์มาให้ชมในคืนนี้คือToyota FortunerกับIsuzu Mu-7เอสยูวีที่ใช้พื้นฐานเดียวกับรถกระบะหรือบ้านเราเรียกว่าแบบพีพีวี ซึ่งเป็นยุคที่เปิดศึกตลาดรถประเภทนี้อย่างรุนแรงกว่าเดิม แถมมาในช่วงที่เอสยูวีอย่างCR-Vกำลังเพลี้ยงพล้ำหลังจากโดนทุบประจานบวกกับน้ำมันเบนซินเริ่มแพงแต่ดีเซลยังตรึงราคาอยู่และเริ่มเข้าสู่ยุคคอมมอนเรลที่เครื่องดีเซลแรงและประหยัดน้ำมันไม่ได้อืดแบบยุคก่อน นับว่าศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนักมันก็ต้องมีใครอยู่มีใครไป เริ่มจากมุมแดงToyota Fortuner มาในสโลแกน"The World is mine"เจ้าตลาดเดิมซุ่มพัฒนาจนตัวรถดีไซน์ออกมาได้แตกต่างจากกระบะอย่างสิ้นเชิงหลายคนก็ว่าเหมือนแฮริเออร์เอสยูวีหรู ทำฐานล้อสั้นลงจากวีโก้ ซึ่งใช้พื้นฐานเดียวกันมาพัฒนาใหม่ภายในหรูหรา บวกกับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล3000cc 1KD-FTV 163แรงม้าและมีรุ่นเบนซิน2700cc 160แรงม้าอีกด้วย ขับสี่ฟูลไทม์และช่วงล่างหลังแบบคอยล์สปริงโฟร์ลิงค์คร้งแรกในรถประเภทนี้มีรุ่นย่อยคือ3.0V,2.7V,3.0G ทุกรุ่นมีเกียร์ออโต้4สปีดยกเว้น3.0Gรุ่ล่างสุดเป็นธรรมดา5สปีด ในตอนแรกรุ่น3.0Vขายดีสุดแต่ในระยะหนึ่งมีกระแสติดแกซทำให้รุ่น2.7Vขายดีขึ้น ด้วยรูปทรงที่สวย บวกกับกระแสของวีโก้ที่เปิดตัวก่อนไม่นานช่วยดัน เครื่องยนต์ที่แรง แถมช่วงล่างคอยล์สปริงทำให้ได้ใจแฟนคลับไปเยอะส่วนข้อเสียหลักๆ คงจะเป็นระบบเบรคที่ค่อนข้างทื่อ ช่วงล่างคอยล์สปริงแต่ก็ไม่ได้นิ่มหนึบแบบที่คาดหวัง อัตราสิ้นเปลืองที่กินดุกว่าวีโก้พอสมควรเพราะน้ำหนักตัวกับระบบขับสี่ฟูลไทม์ และระบบแอร์ที่ไม่มีแอร์แถวหลังมีแค่ช่องแอร์เล็กๆตรงแถวสามอาจทำให้คนนั่งแถวหลังรู้สึกเย็นช้า ทางด้านมุมน้ำเงินIsuzu Mu-7 ในสโลแกน"If You Need More "หลังจากที่เวก้าแป้กอยู่นานอีซูซุก็ต่อจนยาวเป็น7ที่นั่งเสียที โดยดีไซน์ภายนอกตัวรถยังคงแข็งๆแบบกระบะ ยังต่างกับดีแมคซ์ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันไม่มาก ฐานล้อก็ยังคงเท่าตัวกระบะ ภายในกว้างขวางแต่ดีไซน์ยังคงต่างกับกระบะไม่มาก เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 4JJ1-TC 3000cc 146แรงม้า 0-100km/hใน13.8วินาที มีรุ่นย่อยสี่รุ่นคือ4x2 MT,4x2 AT,4x4 MT,4x4 AT มีทุกระบบเกียร์ทั้งธรรมดา5สปีดและออโต้4สปีด มัทั้งขับสองกับขับสี่แบบพาร์ทไทม์แบบกระบะ ข้อดีหลักๆคือ เครื่องยนต์ที่แรงและประหยัดน้ำมันแต่ความแรงอาจจะสู้ฟอร์จูนเนอร์ไม่ได้แต่ประหยัดกว่า ช่วงล่างเป็นแหนบจริงแต่นุ่มกว่าคอยล์สปริงฟอร์จูนเนอร์ ภายในกว้างขวางมีแอร์ราวถึงแถว3 ส่วนข้อเสียหลักๆคือหน้าตายังแข็งไปดีไซน์ยังต่างกับกระบะดีแมคซ์ไม่มากฐานล้อก็ยังคงเท่ากระบะ อุปกรณ์ภายในให้มายังไม่ค่อยสมกับรถคันละล้านเท่าไหร่ เครื่องยนต์ลอตแรกๆมีปัญหากินน้ำมันเครื่องโดนหางเลขกับกระบะดีแมคซ์ไปด้วยแม้ว่าตอนหลังจะแก้ปัญหาจบไปแล้ว ทำให้ยอดขายแพ้ฟอร์จูนเนอร์ตลอดอายุยอดขายเป็นอันดับสองในตอนนั้น คนที่ซื้อจริงๆส่วนมากเป็นติ่งอีซูซุชอบกระบะอีซูซุอยู่แล้วจึงอุดหนุนหรือมองที่ประโยชน์ใช้สอยความคุ้มค่า ถ้ามองที่ตัวเลขยอดขายFortunerจะได้เดือนละพันคัน ส่วนMu-7จะได้สี่ห้าร้อยคันเป็นแบบนี้ไป จนกระทั้งมิตซูบิชิส่งปาเจโรสปอร์ตมาอีซูซุจึงยอดหล่นลงไป แต่ทั้งคู่ก็ปรับปรุงข้อด้อยกันเรื่อยๆอย่างฟอร์จูนเนอร์ก็ปรับปรุงเบรค ช่วงล่าง ใส่แอร์ราวมาให้ ส่วนอีซูซุุ ก็ปรับปรุงเครื่องนำเครื่องVGS Turboมาใช้ ปรับอุปกรณ์ให้ดีขึ้น แม้Mu-7จะเป็นMu-Xแล้วก็ตามยอดขายจึงแซงฟอร์จูนเนอร์ได้แต่บางช่วงฟอร์จูนเนอร์ก็ยังกลับมานำเช่นกัน ตอนนี้คงต้องรอว่าฟอร์จูนเนอร์ใหม่มาจะเป็นอย่างไร





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น